Archive | June, 2011

ครบรอบ 5 ปี

19 Jun

 

วันนี้ครบรอบ 5 ปี แล้วสินะคะ

ตั้งแต่โซ้ยโกจากไปในวันที่ 19 มิ.ย. 49

เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ….

 

เบลยังจำได้ว่าตอนที่เบลรู้ข่าวเบลกำลังอยู่ปี 2 วันนั้นเป็นวันที่มีการเข้าห้องเชียร์ของเด็กปี 1

พี่แบงค์เป็นคนส่ง sms มาบอก ทั้งๆที่ปะป๊ากับญาติคนอื่นยังไม่อยากให้เบลรู้ เพราะกลัวเบลจะเสียใจ

วันนั้นเบลเขียนไดอารี่ไปก็น้ำตาไหลไป ถึงแม้ว่าทุกๆคนจะเตรียมใจล่วงหน้ามาซักพักแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันก็เสียใจ เศร้า

วันนี้เอากลับมาอ่านอีกรอบ ก็น้ำตาจะไหล

เบลยังจำได้ว่าตอนเด็กๆ เวลาที่ไม่มีคนอยู่ที่บ้าน แล้วโซ้ยโกต้องอยู่กับเบลกับพี่แบงค์ โซ้ยโกก็จะต้มข้าวต้มหมูอร่อยๆให้พวกเบลกิน เบลคิดว่ายังจำรสชาติได้อยู่เลย

โซ้ยโกรักพี่แบงค์กับเบลมาก เบลก็รักโซ้ยโกเหมือนกันค่ะ ทุกๆคนรักโซ้ยโกนะ

 

วันนี้โชคดีจริงๆที่เบลได้หยุด ตอนเช้าเบลเลยตั้งใจตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อจะไปทำบุญครบรอบวันเสียของโซ้ยโก

เบลไปกับอาม่าแล้วก็ยายค่ะ ทุกคนตั้งใจทำบุญให้โซ้ยโกนะคะ มีกับข้าวที่โซ้ยโกชอบทั้งนั้นเลย มีทุเรียนด้วยนะ

โซ้ยโกคงได้รับบุญใช่มั้ยคะ ใส่ชื่ออากงไปบังสุกุลด้วย

เบลหวังว่าโซ้ยโกกับอากงจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะคะ

ไม่ต้องห่วงอาม่านะคะ ตอนนี้อาม่ามีความสุขดี มียายมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย เบล ปะป๊า แล้วก็แม่ก็ไปกินข้าวตอนเย็นกับอาม่าทุกวันถ้าไม่ติดธุระอะไร

ช่วยอวยพรให้อาม่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่กับลูกๆหลานๆ ไปนานๆด้วยนะคะ

 

ป.ล.

ตอนนี้เบลเรียนจบแล้วนะคะ เพิ่งทำงานได้ 3 วัน ทำงานที่โรงพยาบาลในเครือเดียวกับที่โซ้ยโกไปรักษาตัวล่ะ จะรับปริญญาประมาณสิ้นปีนี้ค่ะ

อยากให้โซ้ยโกกับอากงได้เห็นเบลรับปริญญาจังเลย

 

อวยพรให้เบลโชคดีในการทำงานด้วยนะคะ

รักและคิดถึงโซ้ยโก กับ อากง เสมอค่ะ

ไม่สบาย = =”

15 Jun

จู่ๆวันนี้ก็ไม่สบายแบบงงๆ ทั้งๆที่เมื่อวานและเมื่อตอนตื่นวันนี้ก็อาการปกติดีทุกอย่าง

แต่จู่ๆซักเก้าโมงกว่าก็มีความรู้สึกว่าหนาวๆตัวอย่างไรพิกล ทั้งๆที่แอร์กับพัดลมก็ไม่ได้เปิดแล้ว

มีลางสังหรณ์ว่ามันจะต้องผิดปกติแน่ๆ แต่ก็ยังคิดว่าไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง

 

 

ปรากฏว่าซักพัก มันหนาวแบบขนลุกทั้งตัว แล้วก็เริ่มสั่น

= =” เกิดมาไม่เคยตัวสั่นแรงขนาดนี้มาก่อน อย่างกับเจ้าเข้า สั่นกึกๆๆ พูดไปก็เสียงสั่นๆ

ตามมาด้วยปวดหัว และเริ่มมีไข้ แล้วก็อาเจียน

ข้าวก็กินไม่ลง ได้แต่นอนห่มผ้า

อารมณ์แบบเซ็งเลย จะเริ่มงานพรุ่งนี้แล้วทำไมต้องมาไม่สบายเอาวันนี้ด้วย แล้วพรุ่งนี้จะไหวมั้ยเนี่ย

พอซักบ่ายสองบ่ายสามเริ่มดีขึ้น แต่ก็ออกไปหาหมอ เพราะกลัวพรุ่งนี้จะไม่ไหว

 

 

ปรากฏหมอบอกว่าไข้ 39 องศา = =.. ตกใจ

คือจริงๆตอนออกไปหาหมอมันรู้สึกว่าไข้เริ่มลงแล้วนะ แต่ยัง 39 เลยเหรอ

แสดงว่าตอนเที่ยงๆที่สั่นเป็นเจ้าเข้านั่นไข้ต้องเกิน 39 องศาแน่ๆ

โชคดีที่โตแล้ว ไม่งั้นถ้าเป็นเด็กคงชักไปแล้ว ไข้สูงขนาดนี้

แล้วความดันก็ต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว ร่างกายขาดน้ำอีกต่างหาก

หมอสรุปสุดท้ายมาว่าน่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่

เลยจัดเต็มทั้งฉีดยา ให้น้ำเกลือ+วิตามิน+กลูโคส จะได้มีแรงไปทำงานพรุ่งนี้ได้

เลยต้องนอนแกร่วที่คลินิกเกือบสี่ชั่วโมงเพื่อให้น้ำเกลือ

 

 

ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไรทำซะแล้ว เพราะไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกมา

แต่แม่ก็กลับไปเอาโทรศัพท์ออกมาให้ เพื่อจะได้โทรบอกตอนน้ำเกลือหมดแล้ว

ก็นอนเล่นเฟส เล่นเอ็ม เล่นวอทแอป ไปแก้เบื่อ เพราะหลับไม่ลงเนื่องจากนอนมาเกือบทั้งวันแล้ว

คิดๆดูก็สามารถเหมือนกันนะ ถือโทรศัพท์ด้วยมือซ้ายแ้ล้วใช้นิ้วโป้งจิ้ม ฮ่าๆ

ก็นะ มือขวาโดนเจาะให้น้ำเกลืออยู่นี่ ขยับแล้วเจ็บจะตาย

 

 

[ที่ระลึกของการไม่สบายหนักครั้งแรกในรอบปี = =’ ]

 

ตอนนี้ไข้ลงแล้วล่ะ แต่ยังรู้สึกเพลียหน่อยๆ

เดี๋ยวว่าจะกินยาแล้วก็คงไปนอนแล้วแหละพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงาน

เหมือนฟาดเคราะห์ก่อนทำงานเลย เสียค่าเสียหายไป 1,300 บาท = =

โดนป๊าเทศน์ว่าทำไมถึงเป็น อายุแค่นี้เองต้องมานอนให้น้ำเกลือซะแล้ว

แหม ป๊าคะ เบลก็ใช่ว่าจะอยากเป็น T-T แต่จู่ๆมันก็เป็นขึ้นมาง่ะ

(ความจริงเคยโดนนอนให้น้ำเกลือตอนปีสี่เพราะเป็นไข้เลือดออกนะ จะว่าไปก็กลัวเป็นไข้เลือดออกอยู่เหมือนกัน ช่วงนี้ไข้เลือดออกระบาดซะด้วย แต่คงไม่เป็นหรอกมั้ง…)

เอาเถอะ มองในแง่ดี อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเป็นพรุ่งนี้ล่ะเนอะ

 

 

ขอบคุณทุกๆคนที่อวยพรให้เราหายไวๆน้า

หวังว่าพรุ่งนี้คงหายและมีแรงทำงาน

สู้ๆๆ ฮึบๆๆ

 

 

ป.ล. ตอนแรกว่าวันนี้จะอ่านหนังสือทวนซะหน่อยพรุ่งนี้จะเริ่มงานแล้ว

สุดท้ายมาไม่สบาย เลยอดอ่านเลย T-T

ขอให้การเริ่มต้นทำงานวันแรกในพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ สู้ๆๆ ฮึบๆๆ

ป.ล.2 ตอนเค้าดึงเข็มออกจากมือหลังให้น้ำเกลือเสร็จนี่เจ็บมากกกกก = =” ถึงจะเป็นเข็มพลาสติกก็เหอะนะ

รู้สึกเลยว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ

รู้สึกดี

13 Jun

 

ชอบเวลาที่ได้ช่วย ได้ให้คำอธิบายเรื่องยาแก่คนไข้ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาจัง

มันรู้สึกดี ว่าเราเป็นประโยชน์กับเค้าได้

 

เมื่อวานนี้ที่ไปทำบุญ 9 วัด ก็ได้ช่วยอธิบายเรื่องยาละลายลิ่มเลือด (warfarin) กับคุณยายแล้วก็ลูกของคุณยายคนนึง

 

วันนี้ก็ได้อธิบายเรื่องยาเบาหวานกับญาติที่เป็นเบาหวาน

 

รู้สึกดีที่ได้ช่วย และมีกำลังใจเวลาที่เค้าขอบคุณเรา

^___________^

ขอให้เรามีจุดยืนแบบนี้ไปนานๆ นะ อย่าให้เปลี่ยนไปเมื่อทำงานเลย

 

 

ปล.

วันนี้ไปเซ็นสัญญาทำงานแล้วล่ะ

จะเริ่มงานวันพฤหัสนี้แล้ว ขอให้ผ่านระยะเวลาทดลองงาน 119 วัน ไปได้ด้วยดีนะค้า

ขอบคุณพี่ยศด้วยค่าที่อุตส่าห์เดินพาไปส่งถึงที่

(มีความรู้สึกว่าตัวเองหลงทางง่ายในสายตาคนอื่นยังไงไม่รู้แฮะ ฮ่าๆๆ)

 

ไหว้พระ 9 วัด

12 Jun

 

สืบเนื่องจากเมื่อวานที่ติสต์แตก เบื่อตัวเอง เลยเกิดอารมณ์อยากจะเคลียร์รูปวาดให้เสร็จ สุดท้ายก็เสร็จเอาตีสองกว่า

ไม่เจียมตัวเองเลยว่าจะต้องตื่นตีห้าไปทำบุญไหว้พระ 9 วัด

แต่เอาเข้าจริงๆมันก็ตื่นได้นะ ไม่ได้รู้สึกง่วงอะไรมากด้วย = = แต่ก็นะ ให้ทำงี้บ่อยๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน

จะว่าไป ก็ไม่ได้ตื่นตีห้ามานานแล้วนะเนี่ย

ต่อไปคงต้องฝึกให้ชิน เพราะทำงานแล้วก็คงต้องตื่นประมาณนี้สินะ T-T

 

 

วันนี้ไปทำบุญถวายเทียนพรรษา และสังฆทาน 9 วัด

ก็นั่งรถทัวร์ไปกัน ทั้งหมดเกือบ 50 คนได้มั้ง

ไปวัดที่อยุธยา 5 ที่ มีวัดบางนมโค วัดบ้านแดง วัดสีกุก วัดหน้าต่างนอก วัดหน้าต่างใน เป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆกัน ก็แวะติดๆกันเลยเสร็จก็เกือบ 11 โมง ทันพระฉันเพลพอดี

 

 

ตอนกลางวันก็เลยแวะไปตลอดแถววัดไชโยวรวิหาร ที่อ่างทอง เพื่อพักกินข้าวก่อนที่จะเข้าวัดไชโยฯต่อ

กินผัดไทยไชโยไป ก็อร่อยดีนะ เส้นมันหนึบๆ แต่ว่าให้เยอะมาก…. กินไม่หมด T-T แล้วมันก็เลี่ยนด้วยอ่ะ

อาจเป็นเพราะสั่งแบบผัดไทยจืดไม่ใส่พริกกับถั่วงอกไป มันก็เลยไม่มีอะไรแก้เลี่ยนเลย

 

 

หลังจากถวายที่วัดเสร็จก็ไปที่วัดอะไรต่อไม่รู้จำชื่อไม่ได้ = =’

ส่วนอีกสองวัดสุดท้ายไปที่สิงห์บุรี คือวัดพิกุลทอง กับวัดจำปาทอง

 

 

สุดท้ายก็แวะกินข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำแถวๆสิงห์บุรี ร้านอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้อีกแล้ว = =” กุ้งเผาอะไรซักอย่าง อยู่ใกล้ๆวัดสิงห์ (มั้ง)

(หัวสมองช่วงนี้ไม่ได้ใช้งานสินะ มันเลยเริ่มเสื่อม ฮ่าๆ)

ก็อาหารอร่อยดี แต่ไม่รู้ว่าราคาเป็นไง เพราะกินอย่างเดียว ^^”

 

 

รู้สึกดีเวลาที่ได้เข้าวัด ทำบุญ ไหว้พระ

รู้สึกว่าจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน อารมณ์ติสต์ค่อยลดลงหน่อย เอิ๊กๆ

ถ้ามีโอกาสก็อยากเข้าวัดบ่อยๆเหมือนกันนะ ^_________^

 

 

 

ปล.

 

ทำไมเพื่อนๆเห็นเราเป็นผู้วิเศษหรือไง วาดอะไรก็ได้ในโลกนี้เหรอค้าาาา! T_T

ตอนนี้มีงานค้างไว้เป็นพรืด มึนๆเล็กน้อยว่าตกลงแล้วนี่เรารับจ้างวาดการ์ตูนรึเปล่า มันน่าเก็บค่าวาดจริงๆเลย ขอมาแต่ละอย่าง

มีต้องวาดการ์ตูน 7 ตัว เพิ่มของกลุ่มพวกผู้ชาย ที่อยากได้ไปสกรีนเสื้อ

(ไม่อยากบอกว่า ต้องแสกนอีก 3 ตัวที่วาดไปก่อนหน้านี้แล้วใหม่ให้เป็นซัก 200-300 dpi เพราะของเดิมมันแค่ 72 dpi = =”)

แล้วก็มีงานที่่กิ๊กขอ .. วาดฟอร์จูนเนอร์ = =

เกิดมาไม่เคยวาดไรอะไรอย่างอื่นนอกจากรถเด็กเล่นสมัยประถม

แล้วก็เหลือค้างรูปของฝ้ายกับกวางที่เพิ่งขอมา

 

เปลี่ยนอาชีพซะดีกว่ามั้งเนี่ยเรา ฮ่าๆๆ

เอาเถอะ บ่นไปอย่างงั้นแหละ ขอบ่นนิดนึง

ก็เต็มใจทำให้น่ะแหละ ไม่ได้อยากได้อะไรตอบแทนด้วย แค่เห็นเค้าชอบงานที่เราทำให้ก็ดีใจแล้ว

แต่บางทีก็อยากขอเวลาพักบ้างอะไรบ้าง นี่เล่นงานใหญ่ติดๆกัน = =

อารมณ์วาดยิ่งมาๆไปๆอยู่ สงสัยจะได้ดองก็คราวนี้ ใกล้เริ่มงานแล้วด้วยสิ

 

 

ไม่ชอบเลย

11 Jun

 

ไม่ชอบเลยจริงๆที่รู้สึกอย่างงี้

 

ไม่เป็นไรหรอก แค่ความรู้สึกเหงา อีกไม่นานก็คงหาย

 

อย่าให้ความเห็นแก่ตัวของเราต้องไปทำร้ายใครเลย

 

เกลียดตัวเองที่รู้สึกเห็นแก่ตัวจัง เฮ้อ..

ที่ปลายฟ้า

10 Jun

 

…..ใครสักคนที่เกิดมา เพื่อเคียงข้างกัน
เป็นคนสำคัญ อยู่กับฉันข้างๆ กาย
ใครสักคนอาจจะมีเพียงในนิยาย
วันที่พ้นไปบางครั้งเราก็ใจหาย

ยังไม่รู้ ยังไม่รู้ ว่าคนนั้นคือใคร
แต่ใจฉันจะยังฝันเรื่อยไป

อาจจะมีใครสักคนรออยู่ที่ปลายฟ้า
บอกใจเสมอว่าคนที่รออยู่ไม่ไกล
อาจจะมีใครสักคนรับฝากรักในหัวใจ
เส้นทางชีวิตอันแสนไกล จะมีคนรักเดินเคียงข้างกัน….

 

เพลง ที่ปลายฟ้า : หนูนา หนึ่งธิดา

Smile :)

9 Jun

ย้ายที่เขียนใหม่ หลังจาก space ปิดตัวลงไปอย่างถาวร

เสียดายเล็กๆ ที่ย้ายข้อมูลมาที่นี่ไม่ทัน แต่จริงก็ backup พวกที่เขียนหมดแล้วล่ะ

ไม่เป็นไรถือซะว่าขึ้นบ้านหลังใหม่ เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ^^

 

ความจริงก็คิดอยู่ว่าจะเปิดที่เขียนดีรึเปล่า แต่วันนี้จู่ๆก็มีอารมณ์อยากเขียนบันทึก ก็เลยเปิดดีกว่า

จริงๆเขียนที่นี่ก็คงไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ (แหม ที่เก่าก็ไม่ค่อยมีคนอ่านเหมือนกันเถอะ)

ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะแค่อยากเขียนเก็บเอาไว้อ่านเท่านั้น

 

คิดถึงไดอารี่เก่าๆ บันทึกเก่าๆ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เร็วจนน่าใจหาย

หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายเลยล่ะ

ตัวเราเองก็คงจะเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย

 

เรียนจบแล้ว  ในที่สุดก็จะได้เริ่มทำงานกับเค้าซักที หลังจากที่(ตั้งใจ)ว่างงานมาเกือบ 3 เดือน ^^”

เหลือวันหยุดอีกแค่ 7 วันเท่านั้น เราก็จะต้องก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานแล้ว

ต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ …. ไม่อยากเลยจริงๆ แต่จะเป็นเด็กไปตลอดไม่ได้หรอก

สู้ๆๆ ฮึบๆๆ

 

ยิ้มกว้างๆ แล้วบอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี ^____________^